ปลูกผมทับรอยแผลเป็น

  ปลูกผมทับรอยแผลเป็น คืออะไร ?

              ปลูกผมทับรอยแผลเป็น คือกระบวนการย้ายรากผมมาปลูกลงไปยังบริเวณที่เกิดรอยแผลเป็นแล้ว โดยรอยแผลเป็นมีกลไกการเกิดจากกระบวนการซ่อมแซมแผลของร่างกาย หลังจากเกิดแผลแล้ว ร่างกายจะมีกระบวนการปรับสภาพแผลให้กลับมามีสภาพปกติมากที่สุด ซึ่งการผลิตคอลลาเจนประเภทต่างๆออกมานี้ เรียกว่า Remodeling phase กระบวนการหายของแผลจะใช้เวลา 6 เดือน- 1 ปี ในการเปลี่ยนแปลงจนรอยแผลเป็นจะคงตัว เรียกว่า Mature scar ซึ่งจะมีความแข็งแรงของผิวหนัง 80% ของสภาพผิวหนังปกติ การปลูกผมทับรอยแผลเป็น มีขั้นตอนเดียวกับการปลูกผม คือ เจาะรากผมบริเวณท้ายทอยที่แข็งแรง แล้วนำมาปลูกบริเวณรอยแผลเป็นที่ต้องการ แต่การ ปลูกผมทับรอยแผลเป็น นั้นจะมีรายละเอียดและข้อจำกัดที่แตกต่างจากการปลูกผมทั่วไปดังนี้

 

ข้อจำกัดของการ ปลูกผมทับรอบแผลเป็น?

  • ปลูกผมทับรอบแผลเป็น ต้องรอให้รอยแผลเป็นคงที่แล้ว (Mature scar ) ซึ่งต้องรอประมาณ 6-12 เดือน จึงพิจารณาปลูกผมทับรอยแผลเป็น
  • ปลูกผมทับรอยแผลเป็น กราฟที่ปลูกจะมีอัตราการรอดของกราฟเฉลี่ย 50/50 เนื่องจากระบบไหลเวียนโลหิตใต้แผลเป็นจะน้อยกว่าพื้นที่ผิวปกติ (อัตราการรอดของกราฟกรณีพื้นผิวปกติจะมากกว่า 90% )
  • การ ปลูกผมทับรอยแผลเป็น ไม่สามารถปลูกให้แน่นมากๆภายใน 1 ครั้ง แนะนำปลูกห่างๆกันในครั้งแรก แล้วรอปลูกซ้ำที่ 1 ปี เพื่อลดการแย่งเลือดกันของรากผมที่ย้ายมาปลูก

 

บริเวณที่สามารถปลูกผมเพื่อแก้ปัญหาแผลเป็น?

  • แผลเป็นบริเวณหนังศีรษะ
  • แผลเป็นบริเวณใบหน้า เช่น คิ้ว ขนตา หนวดเครา 

ปลูกผมทับรอยแผลเป็น

ลักษณะแผลเป็นที่สามารถ ปลูกผมทับรอยแผลเป็น ได้?

  • แผลเป็นจากการศัลยกรรมความงาม เช่น เสริมหน้าผาก ดึงหน้า 
  • แผลเป็นจากการผ่าตัด เช่น ผ่าตัดสมอง 
  • แผลเป็นจากอุบัติเหตุ
  • แผลเป็นจากการโดนความร้อน เช่น ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก

ตัวอย่างคส ปลูกผมทับรอยแผลเป็น ที่เกิดจากการศัลยกรรมความงาม

ปลูกผมทับรอยแผลเป็น

ปลูกผมทับรอยแผลเป็น

ปลูกผมทับรอยแผลเป็น

โปรแกรมบำรุงหลัง ปลูกผมทับรอยแผลเป็น ที่คลินิกเวชกรรมเกศา

  • ยากระตุ้นกราฟ 6 เดือน
  • ฉีด PRP กระตุ้นกราฟ 1 ครั้ง เพื่อเพิ่มอัตราการรอดของกราฟ
  • ทำแผล เข้ายาฆ่าเชื้อ สระผมฟรี 3 วัน
  • รับประกันเคลม 1 ครั้ง (หลังปลูก 1 ปี)

REVIEW ปลูกผมทับรอยแผลเป็น
[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=cAo_F-f0CU4[/embedyt]

**บทความลิขสิทธิ์ โดย บริษัทเกศากรุ๊ป ประเทศไทย จำกัด